• เจาะตำนาน หน้ากากแก้ว
  • วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2548 เวลา 22:00:16 น. | ผู้เขียน : Lunar | เปิดดู 2,324 ครั้ง
    • เจาะตำนาน หน้ากากแก้ว
    • "หน้ากากแก้ว" หรือที่นักอ่านรุ่นเก่ารู้จักกันในชื่อ "นักรักโลกมายา" มีชื่อญี่ปุ่นว่า Garasu no Kamen พิมพ์ครั้งแรก ที่ญี่ปุ่น ในปี 1976 โดย Hana to Yume Comics หรือ Hakusensha ในปัจจุบัน หลังจากที่หายไปจากแผงหนังสือไปนาน จนกลายเป็นการ์ตูนในตำนาน สยามอินเตอร์ ก็นำกลับมาพิมพ์ต่อในเล่ม 42 หลายคนอ่านแล้ว ก็ลืม แล้วว่าเนื้อหาเป็นอย่างไร เรามาดูเรื่องโดยย่อกัน
    • หน้ากากแก้ว เป็น เรื่องราวของ คิตาจิมะ มายะ เด็กสาวอายุ 13 ปี ที่หลงใหลในศิลปะการแสดง มายะใช้ชีวิตในช่วงเด็กกับการทำงานหนัก เพื่อช่วยครอบครัวที่มีเพียง แม่และตัวเธอเอง ขณะเดียวกันก็มีความฝันในการแสดงละครเวที

      เรื่องราวเปิดฉากที่ มายะ กลับจากโรงเรียน มาที่บ้านซึ่งเป็นร้านอาหารจีนในไชน่าทาวน์ของเมืองโยโกฮาม่า ซึ่งแม่ของมายะเป็นเจ้าของอยู่ คนรอบข้างมักมองว่า มายะเป็นเพียงเด็กผู้หญิงไร้สาระคนนึง วันนึงมายะได้พนันกับเพื่อนว่า ถ้าเธอสามารถส่งอาหาร 120 ชุดได้ก่อนเที่ยงคืนวันสิ้นปี จะได้ตั๋วดูโอเปร่า ซึ่งมายะ ก็ทำได้จริง ๆ แต่เพื่อนที่รู้ตัวว่าแพ้ ก็ปล่อยให้ตั๋วปลิวลมตกไปในทะเล มายะกระโดดลงไปเก็บตั๋ว เหตุการณ์ดังกล่าวอยู่ ในสายตาของ สึกิคาเงะ จิงุสะ ผู้ซึ่งมองเห็นพรสวรรค์ของมายะ และเลือกให้เป็นทายาทการแสดง

      ชีวิตของมายะพลิก ผันเมื่อเจอ สึกิคาเงะ จิงุสะ ซึ่งเคยเป็นนักแสดง และผู้อำนวยการสร้างที่มีชื่อเสียง แผลเป็นที่หน้าจากอุบัติเหตุทำให้จิงุสะ ต้องลาจากเวทีละคร แต่ก็ยังถ่ายทอดความเป็นอัจฉริยะในการแสดงให้กับนักเรียน จิงุสะมองหานักแสดงที่สมบูรณ์แบบ เพื่อมาเป็นผู้แสดงนำเรื่อง นางฟ้าสีแดง (Kurenai Tennyo) ที่เธอได้ลิขสิทธิ์จากครู และคนรักของเธอ ชื่อ โอซากิ อิชิเรน มายะได้เข้าไปเรียนในโรงเรียนของสึกิคาเงะ จิงุสะ

      มายะมีพรสวรรค์ โดยธรรมชาติ แต่ใช่ว่าจะไม่มีคู่แข่งที่ทัดเทียม คู่แข่งของมายะ คือ ฮิเมกาวะ อายูมิ ที่อายุเท่ากับมายะ แม่ของอายูมิเป็นนักแสดง ที่มีชื่อเสียง ส่วนพ่อเป็นผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ที่โด่งดัง อายูมิมุ่งหวังที่จะได้แสดงเรื่องนางฟ้าสีแดง เช่นเดียวกับมายะ ทั้งสองกลายมาเป็นคู่แข่งกัน

      ทั้ง ๆ ที่ใช้เทคนิคการแสดงธรรมดา มายะก็แสดงได้เข้าถึงบทบาท จนสร้างความประทับใจให้กับผู้ดู และเพื่อน ร่วมการแสดงอย่างท่วมท้น ส่วนอายูมิ แสดงได้สมบูรณ์แบบด้วยเทคนิคการแสดง ที่ฝึกฝนมาตั้งแต่เด็ก แต่ก็ยังด้อยกว่ามายะในเรื่องของการดึงดูดอารมณ์ผู้ดู มายะไม่รู้ตัวว่ามีพรสวรรค์ และยังอิจฉาความสวย งาม และเทคนิคการแสดงของอายูมิ ขณะที่อายูมิก็มองมายะเป็นอัจฉริยะทางการแสดง และมีความรู้สึกว่าตนเป็นผู้ที่ด้อย กว่า อายูมิจึงได้มุ่งมั่นพัฒนาบทบาทการแสดงของเธอ ขณะที่มายะแสดงบทบาทต่าง ๆ อย่างเป็นธรรมชาติด้วยแรงจูงใจ

      จิงุสะ ต้องการที่จะสร้างเรื่อง นางฟ้าสีแดง ซึ่งเป็นบทละครในตำนานขึ้นอีกครั้ง แต่ ฮายามิ มาซึมิ ประธานบริษัท บันเทิงยักษ์ ใหญ่ของญี่ปุ่น ผู้ซึ่งคนทั่วไปมองว่า เป็นคนเลือดเย็น ได้ขัดขวางจิงุสะโดยตลอด มาซึมิแก่กว่ามายะ 11 ปี และต้องการที่จะเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ นางฟ้าสีแดง

      มาซึมิ รู้ถึงพรสวรรค์ของมายะก่อนการแสดงครั้งแรกของเธอ และประทับใจความรักในการแสดงของมายะ การ แสดงละครเวทีครั้งแรกของมายะ ชื่อเรื่องว่า Beth of The little women มายะแสดงทั้ง ๆ ที่มีไข้สูง บนเวทีเขาเห็นประกายตาของมายะ และหลงใหลในการแสดงของเธอ มาซึมิได้ส่งช่อดอก กุหลาบสีม่วงให้มายะ โดยไม่เปิดเผยตัว

      แม้ว่า มาซึมิ จะ ทำลายบริษัทของจิงุสะตามความมุ่งหมายของเขา แต่มาซึมิก็ยังคงส่งกุหลาบสีม่วงให้มายะในการแสดงทุกครั้ง และตกหลุมรักมายะ มายะเรียกคนที่มอบกุหลาบให้ว่า คุณกุหลาบสีม่วง

      มาซึมิจ่ายค่าโรงพยาบาลของจิงุสะ ค่าเทอมของมายะ และยังซ่อมโรงละครที่มายะแสดง แต่ก็ไม่เคย บอกว่าเขาคือ คุณกุหลาบสีม่วง เพราะเขามีส่วนในการตายของแม่มายะโดยทางอ้อม มาซึมิมักจะเรียกมายะ ว่า หนูเปี๊ยก (Chibi-chan) ซึ่งมายะไม่ชอบเอามาก ๆ ดังนั้นคู่นี้จึงมักทะเลาะกันเสมอเมื่อเจอกัน มาซึมิมักแสดงให้เห็นว่า เป็นคนเลือดเย็น และเจ้าเล่ห์ แต่ขณะดียวกันก็คอยสนับสนุนมายะอย่างลับ ๆ

      อายูมิ และมายะ ได้ รับการฝึกฝนการแสดงนางฟ้าสีแดง เป็นครั้งสุดท้ายจากจิงุสะ มายะบังเอิญรู้ว่า มาซึมิ คือ คุณกุหลาบสีม่วง มายะเสียใจ มากที่รู้ว่าผู้ชายที่เธอเกลียดกลายเป็นผู้ชายที่สำคัญของเธอ แต่ในที่สุด มายะ ก็รัก มาซึมิ ซึ่งมาซึมิเองยังไม่ รู้

      แม้ว่าทั้งสองคนจะ รักกัน แต่ทั้งคู่ก็เป็นเหมือนเส้นขนาน เพราะพวกเขาไม่สามารถบอกรักได้ด้วยกลัวว่าจะเสียใจทั้งคู่ และมาซึมิยังนัดดูตัวกับผู้หญิงซึ่งมาจากครอบครัวร่ำรวย และเดทกับเธออีกด้วย มายะรู้สึกเจ็บปวดมาก ด้วยความรู้สึกว่าตัวเองต่ำต้อย คิดว่า ถ้าเปรียบเทียบกับผู้หญิงคนนั้นแล้ว ตัวเธอเองไม่มีอะไรเลย หน้าตาก็ไม่สวย ฐานะก็ยากจนกว่า และยังเด็กกว่ามาซึมิถึง 11 ปี

      เมื่อสิ้นสุดการฝึกฝนบทบาท เรื่องนางฟ้าสีแดง จิงุสะได้แสดงบท นางฟ้าสีแดง เป็นครั้งสุดท้าย ที่หุบเขาอุเมะโนะทานิ ซึ่งเป็นฉากดั้งเดิมในเรื่อง นางฟ้าสีแดง ทั้ง ๆ ที่เธอป่วยหนัก คนดูต่างประทับใจในการแสดงของเธอ ที่แสดงได้ มหัศจรรย์ และเป็นธรรมชาติยิ่ง

      จิงุสะได้ทำลายหน้ากากที่เคยสวมออกเป็นสองส่วน และได้ให้มายะ และอายูมิสร้างนางฟ้าสีแดงของตัวเองขึ้นมาใหม่ ส่วนมายะและมาซึมิได้รับอิทธิพลความรักที่รุนแรงของนางฟ้าสีแดง ทำ ให้เกิดเหตุอัศจรรย์ ที่วิญญาณของทั้งคู่สัมผัสซึ่งกันและกัน ณ บริเวณสองฟากฝั่งของแม่น้ำ แต่ก็ไม่อาจถ่ายทอดความ รู้สึกให้อีกฝ่ายรับรู้ ในวันที่กลับจากหุบเขาอุเมะโนะทานิ มายะตั้งใจที่จะสารภาพความรู้สึกต่อมาซึมิ...
    • เมื่อมายะกลับมาถึงโตเกียว และไปพบมาซึมิ เพื่อสารภาพรักกับเขา แต่ที่ที่เธอพบมาซึมิ กลับเป็นงานเลี้ยงประกาศการหมั้นของมาซึมิกับชิโอริ มายะเสียใจมาก จนมีผลกับการฝึกซ้อมแสดง นางฟ้าสี แดง ที่จะมีการคัดเลือกในอีกไม่นาน

      ขณะที่มายะไม่มีสมาธิ และอารมณ์ในการฝึกซ้อมการแสดง อายูมิซึ่งเป็นคู่แข่งในการคัดเลือกตัวนางฟ้าสีแดงก็พยายามฝึกซ้อม เปลี่ยนห้องพักให้เป็นบรรยากาศธรรมชาติ เลียนแบบการดำรงชีวิตของนางฟ้าสีแดง เพื่อจะได้เข้าถึงอารมณ์ และจิตใจของนางฟ้าสีแดง
    • ผู้กำกับ และเพื่อนร่วมทีมของมายะต่างงงงวยกับท่าทีการแสดงของมายะ รวมทั้ง ซากุระโคจิ ยู ที่รับบทอิช ชิน ซึ่งเป็นบทคู่ของนางฟ้าสีแดง ผู้กำกับสงสัยว่าอาการของมายะเป็นอาการของคนอกหัก ซากุระโคจิ (ซึ่งยังคงหลงรักมายะ ทั้งที่มีมาอิเป็นแฟนแล้ว) เป็นห่วงมายะมาก มายะโดนลงโทษให้งดซ้อม 1 วัน ซากุระโคจิจึงขอลงโทษตัวเองงดซ้อมเช่นกัน และพามายะไปเที่ยวให้สบายใจ การไปเที่ยวของทั้งสองตกอยู่ในสายตาคนทั่วไป รวมทั้งนักสืบที่มาซึมิจ้างไว้ เมื่อกลับมาซ้อม มายะทำได้ดีขึ้น จนมีเสียงลือกันเกี่ยวกับเรื่องของคนทั้ง คู่

      ซากุระโคจิ นัดเดททานอาหารกับ มายะ ซึ่งบังเอิญเป็นร้านเดียวกับที่มาซึมิพาชิโอริ คู่หมั้นมา มาซึมิรู้สึกเจ็บปวดที่เห็นทั้งคู่กำลังคุยกันอย่างสนุกสนาน ช่วงที่ซากุระโคจิหลบไปฟังข้อความที่มาอิฝากไว้ในโทรศัพท์ มาซึมิก็ส่งดอกกุหลาบสีม่วงมาให้ที่โต๊ะมายะ มายะออกเดินหาคุณกุหลาบสีม่วงจนตกน้ำ มาซึมิวิ่งมาเพื่อที่จะช่วยแต่เห็นซากุระโคจิวิ่งมาช่วยก่อน จึงหลบไป ซากุระโคจิอุ้มมายะขึ้นจากน้ำ กุหลาบสีม่วงที่มายะถืออยู่ร่วงหลุดมือไป มาซึมิมองด้วยความเจ็บ ปวด

      นักสืบที่มาซึมิจ้างมาได้แอบส่งรูปที่ มายะถ่ายกับซากุระโคจิตอนไปเที่ยวจากโทรศัพท์มือถือของซากุระโคจิ ไปให้มาซึมิดู ซึ่งมาซึมิเจ็บปวดอย่างมากเมื่อเห็น ภาพ……….

      เรื่องราวของมายะ และมาซึมิจะเป็น อย่างไร ต่อไป มายะหรืออายูมิจะได้รับบทนางฟ้าสีแดง บทละครในตำนาน ติดตามได้ในเล่ม 43 (ซึ่งไม่รู้จะออกเมื่อไหร่…. โฮ่ โฮ่ โฮ่ ^o^)
    • คิตาจิมะ มายะ : เด็กสาวอายุ 13 ปี หน้าตาธรรมดา ๆ การเรียนก็ไม่ได้โดดเด่น แต่มีความ สามารถทางด้านการแสดง อาศัยอยู่กับแม่ (พ่อของมายะเสียชีวิตตั้งแต่เด็ก) ซึ่งเปิดร้านอาหารจีน อยู่ที่โยโกฮาม่า มายะชอบดูหนัง ดูทีวี แสดงเรื่องราวต่าง ๆ มายะจะสนุกสนานใน การได้เล่าเรื่องให้เพื่อนที่โรงเรียนฟัง ชีวิตสามัญธรรมดาของมายะเปลี่ยนไป เมื่อได้พบกับ สึกิคาเงะ จิงึสะ
    • ฮายามิ มาซึมิ : ประธานบริษัทบันเทิงยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น เป็นคนหนุ่มที่ร่ำรวย มาซึมิมีอดีตที่น่าสนใจ เปลือกนอกถูกมองว่าเป็นคนเลือดเย็น มีสายตายาวไกลในเชิงธุรกิจ ได้รับการขนานนามว่า ปีศาจแห่งโลกบันเทิง มาซึมิเป็นคนหนึ่งที่พยายามซื้อลิขสิทธิ์นางฟ้าสีแดงจากจิงุสะ แต่ก็ได้รับการปฏิเสธโดยตลอด มาซึมิมีบุคลิกลักษณะที่ซับซ้อน การทำงานเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับเขา และวันหนึ่งเขาก็ได้มาพบกับมายะ
    • ฮิเมกาวะ อายูมิ : คู่แข่งคนสำคัญ ของมายะ อายูมิเป็นลูกสาวของผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์กับนักแสดงหญิงที่มีชื่อเสียงโด่งดัง และเธอก็เจริญรอยตามแม่ของเธอ อายูมิได้รับการกล่าวขวัญว่าเป็นอัจฉริยะทางการแสดง ได้รับการฝึกฝนด้านการแสดงตั้งแต่ยังเด็ก อายูมิดูจะเย่อหยิ่ง และทึกทักเอาว่าเธอจะกลายเป็นนักแสดงหญิงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก แต่เมื่อถึงกลางเรื่องที่ได้เรียนรู้เรื่องราวในอดีต และเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเธอ ก็พบว่า จริง ๆ แล้วเธอไม่ได้เย่อหยิ่งอย่างที่แสดงออกมา อายูมิมองเห็นภาพตัวเองในบทบาทนางฟ้าสีแดง จนได้มาพบกับมายะ
    • สึกิคาเงะ จิงุสะ : สมัยเด็กเป็นเด็กกำพร้า จนอิชิเรนซึ่งเป็นนักเขียน และนักแสดงไปพบเข้า และนำเธอมาสอนการแสดงต่าง ๆ จิงุสะกลายเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียง และแสดงบทนำในการแสดงของอิชิเรน คือเรื่อง นางฟ้าสีแดง การแสดงครั้งนี้ทำให้บทนางฟ้าสีแดง เป็นบทบาททุกคนต่างสนใจ นางฟ้าสีแดง เป็นนางไม้ที่สถิตย์ในต้นไม้ใหญ่ การแสดงนี้เหมือนมีเวทย์มนต์ที่ตรึงคนดูไว้ และในที่สุดก็ประสบความสำเร็จมาก จนวันหนึ่ง ไฟบนเวทีหล่นลงมาใส่จิงุสะ กลายเป็นไฟไหม้ใบหน้า ครึ่งหนึ่งของเธอจนเป็นรอยแผลเป็น และนั่นคือจุดสิ้นสุดชีวิตนักแสดงของเธอ เมื่ออิชิเรนเสียชีวิต เขาได้มอบลิขสิทธิ์เรื่อง นางฟ้าสีแดง ให้กับจิงุสะ โดยประกาศว่า ไม่มีใครอีก แล้วนอกจากจิงุสะที่เหมาะกับบทนางฟ้าสีแดง จิงุสะใช้เวลา 20 ปีต่อมาค้นหาเด็กผู้หญิงคนต่อไปที่จะมารับบทนางฟ้าสีแดง นักแสดงและบริษัทมากมายต้องการที่จะซื้อลิขสิทธิ์จากเธอ แต่ก็ได้รับการปฏิเสธหมด โดยเธอยืนยันที่จะหาผู้มาแสดงเป็นนางฟ้าสีแดง และสร้างเรื่องนี้ด้วยตัวเธอเอง และวันหนึ่งเธอก็ได้พบกับมายะ
    • ซากุระโคจิ ยู : เด็กหนุ่มอายุประมาณ 17 ปี เริ่มเรียนการแสดงที่ Ondine Acting Academy ซากุระโคจิหลงรักมายะข้างเดียว แม้จะรัก แต่ก็ยังคงห่วงใยและมีความปราถนาดีให้มายะเสมอ
    • บทความ ชื่อภาษาไทย คำแนะนำ วิธีการเล่น และข้อความต่าง ๆ ในเว็บไซต์ siamcomic.com เป็นลิขสิทธิ์ของบริษัท ดิจิตอล สเตชั่น จำกัด
      ห้ามมิให้ผู้ใด ลอกเลียน ทำซ้ำ หรือนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรจากเจ้าของลิขสิทธิ์
      หากผู้ใดฝ่าฝืนถือว่ามีความผิดตาม พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ ปีพ.ศ. 2537
      Copyright 2000 - 2024 © siamcomic.com powered by DIGITAL STATION Co.,Ltd.
      All right reserved.
      Since 24 - Aug - 2000