เพลิดเพลินกับสวรรค์แห่งโลกใต้ทะเล อุโมงค์ปลา ณ บึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ

วันที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 เวลา 13:15:34 น. | ผู้เขียน : Lunar | เปิดดู 9,860 ครั้ง

...มาด้วยกัน มาด้วยกัน เลือดสุพรรณเอ๋ย...” มาเที่ยวอุโมงค์ปลาที่จังหวัดสุพรรณบุรีกัน ล้อหมุนจากกรุงเทพฯ ฟิ้วววว... ไปตามเส้นทางถ.กาญจนาภิเษก มาถึงแยกเลี้ยวเข้าถนนตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี (340) เลี้ยวซ้ายไปไม่ต้องลังเล ชื่อถนนก็บอกอยู่แล้วว่าปลายทางคือ สุพรรณบุรี นะจ๊ะ วิ่งเกาะถนนเส้นนี้ไปเรื่อย ๆ (รับรองไม่หลง) ผ่านศูนย์ราชการฯ ผ่านแยกสามชุก ตรงไปโลด จนเกือบจะออกชัยนาท ก็เจอป้ายบึงฉวาก กลางถนน เจอป้ายแรกให้เกาะเลนซ้ายไว้เลยกันเหนียวเลี้ยวไม่เลย เพราะเจอป้ายที่ 2 ก็เลี้ยวตรงป้ายนั้นล่ะ เลี้ยวซ้ายเข้าไปตามทาง....

ถึงแล้วจ้า บึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ เป็นบึงน้ำจืดที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 2,700 ไร่ อาณาบริเวณเชื่อมต่อกับ อ.หันคา จ.ชัยนาท และ อ.บางนางบวช จ.สุพรรณบุรี สถานที่ท่องเที่ยวภายในบึงฉวากแบ่งเป็น ส่วนสวนสัตว์ กรงนกใหญ่ อุทยานผักพื้นบ้านเฉลิมพระเกียรติ ส่วนพักผ่อนหย่อนใจมีบริการให้เช่าเรือจักรยานน้ำ ถีบเล่นกันยามเย็น (ใครสู้แดดและความร้อนจะเล่นตอนกลางวันคงจะได้) และไฮไลท์ของบึงฉวากนั่นก็คือ... สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำบึงฉวาก ที่เราจะพาไปเที่ยวกันนั่นเอง

วันธรรมดา ลั้ลลาคนโล่งมาก เลี้ยวเข้าไปจอดรถภายในที่จอดสถานแสดงพันธ์สัตว์น้ำได้สบาย ลงจากรถปุ๊บ ซื้อตั๋วเข้าไปได้ปั๊บ ผู้ใหญ่คนละ 30 บาท เด็กโต 10 บาท เด็กเล็กฟรีจ้า อ๊ะถูกจัง ช้าก่อน นี่แค่ด่านแรก เดินเข้าไปผ่านอาคารแสดงพันธุ์สัตว์น้ำดั้งเดิมไป มุ่งตรงไปยังเป้าหมายของเราก่อน แล้วก็มาเจอกับตู้ปลายักษ์ นั่นคือ ปลาช่อนยักษ์อเมซอน ใหญ่บิ๊กเบิ้มสมชื่อจริง ๆ แต่ท่าทางมันจะไม่ชอบรับแขก ไปหลบอยู่ซะสุดขอบตู้ด้านในเลย

ใกล้ ๆ ตู้ปลาช่อนยักษ์อเมซอน ก็เจอเป้าหมายของเราในวันนี้ “สวรรค์แห่งโลกใต้ทะเล” ใครจะเข้าซื้อตั๋วเพิ่มนะจ๊ะ ผู้ใหญ่คนละ 150 บาท เด็กนักเรียนในเครื่องแบบคนละ 50 บาท (ถ้าวางท่าว่าฉันอินเตอร์สปีกภาษาต่างด้าวก็จ่ายอัตราต่างชาติไปนะจ๊ะ 200 บาท เด็กต่างชาติ 100 บาท) ส่วนเด็กเล็กฟรีจ้า คุ้มเนอะ ใครจะพาลูกไปต้องไปตั้งแต่เล็ก ๆ นี่ล่ะ ประหยัดคุ้ม

อาคารสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ (สวรรค์แห่งโลกใต้ทะเล) จัดแสดงพันธุ์ปลาทะเลหลากชนิด เพลิดเพลินไปกับบรรยากาศโลกใต้ทะเล ผ่านอุโมงค์ปลาขนาดใหญ่ เมื่อเข้าไปยังตัวอาคารก็จะพบกับ ตู้ปลาทรงกระบอก (Cylinder) ว่ากันว่าใหญ่และสูงที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองไทย

ใกล้เข้ามาอีกนิด ชิด ๆ เข้ามาอีกหน่อย เป็นบ่อปลามีปลาตัวน้อยแหวกว่ายน้ำใส

ถัดจากนั้นก็เป็น เต่าตัวลายเดินย้ายโคลงเคลง... ในบ่อเต่า เต่าตนุแสนสวย (หล่อ) ตัวสะอาด แหวกว่ายอยู่ในบ่อ

ขึ้นบันไดเลื่อนไปชั้น 2 ก็มาถึงไฮไลท์สุดยอดของสถานที่แห่งนี้ “อุโมงค์ปลา” ลงบันไดเลื่อนเข้าอุโมงค์ไปกัน

ตู้ปลายักษ์ขนาดเท่ากำแพงจัดแสดง “โลกสีครามจากโอกินาวา” สวยงามมาก

ปลาน้อยแหวกว่ายในผืนน้ำสีคราม

จำลองเรืออัปปางใต้มหาสมุทร

เดินชมธรรมชาติใต้ผืนน้ำไปตามอุโมงค์

ดูไปเรื่อย ๆ จู่ ๆ ก็เห็นฝูงปลาว่ายมารวมตัวกันเป็นฝูงใหญ่ แล้วว่ายเกาะกลุ่มกันไป จะไปไหนกันน้อ

อุโมงค์ปลาฉลาม วันนี้ที่ไปคนโล่งมากจริง ๆ อุโมงค์ใหญ่ว่างโล่ง เหมือนได้เดินเล่นอยู่ในอุทยานปลาส่วนตัว เด็ก ๆ คงรู้สึกเหมือนได้วิ่งเล่นใต้ทะเล

ปลาฉลามนอนซุกตัวอยู่

บางตัวก็ว่ายน้ำเล่น

ถัดจากอุโมงค์ปลาฉลาม จะเป็นร้านขายของที่ระลึก ให้เลือกซื้อของติดไม้ติดมือเป็นที่ระลึกกันไป

หลังจากชื่นชมกับโลกใต้น้ำอย่างเต็มที่แล้ว ก็ออกมาเจอกับเจ้าตุ๊กแกยักษ์!! ไม่ใช่ ๆ มันคือ จระเข้ นอนอ้าปากในบ่อจระเข้

จระเข้ที่นี่มีการศึกษานะ อ่านหนังสือออกด้วย นี่ไงเค้ามีป้ายประกาศให้จระเข้ทราบด้วย

จระเข้วัยอนุบาล

มาดูอาคารแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ บึงฉวาก กันบ้าง แชะภาพมาฝากแต่ละรูป ปลาอร่อย ๆ ของชอบทั้งน้าน ทั้งปลาน้ำเงิน ปลาเนื้ออ่อน ปลากราย สงสัยเริ่มหิว

ปลากะพงแดงหน้าตั้ง ลายสีแด๊งแดง ตัวใหญ่มาก

ปลากลับหัว เวลาว่ายน้ำก็จะกลับหัวว่าย หงายท้อง แปลกดี ปลากลับหัวนี้มีถิ่นกำเนิดในประเทศพม่า

ตู้ปลาหมอกล้วยหอม และปลาหมอมาลาวีน้ำเงิน

ในอาคารแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ บึงฉวากนี้ยังมีปลาน่าสนใจอีกมาก และมีอุโมงค์ปลาน้ำจืดให้ได้ชื่นชมกัน ใครอยากได้ยินเสียงปลาม้าร้อง ก็ลองไปกดปุ่มที่ตู้จัดแสดงได้นะจ๊ะ และเดินไปเรื่อย ๆ อย่าสงสัยว่าลำโพงเสียหรืออย่างไร ทำไมมีเสียงกะตึ๊ก ๆ ออกมาจากลำโพง นั่นเป็นเสียงจากการปล่อยกระแสไฟฟ้าของเจ้าปลาไหลไฟฟ้าที่เค้าเชื่อมต่อกับลำโพงไว้นั่นเอง

กลับแล้วจ้า ก่อนกลับผ่านสวนสัตว์ แชะรูปเจ้ายีราฟมาฝากแถมท้าย เจอกันใหม่ทริปต่อไปนะจ๊ะ